ข้อบังคับ ชมรมชาว สวช. .......................................
ข้อความทั่วไป
Office Of The National Culture Commission Club ใช้ตัวย่อว่า ONCCC ข้อ ๒. ให้ใช้ข้อบังคับนี้ตั้งแต่วันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๔ เป็นต้นไป ข้อ ๓. เครื่องหมายของชมรม ใช้ตราประจำสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม มีข้อความ “ ชมรมชาว สวช. ” อยู่ด้านล่าง ดังรูป
ข้อ ๔. เครื่องหมายของชมรม อาจใช้ปักบนกระเป๋าเสื้อหรือดัดแปลงเป็นเข็มใช้กลัดติดหน้าอกเสื้อ และ ฯลฯ ข้อ ๕. คำขวัญของชมรม “ เราเคยร่วมงาน ความสัมพันธ์ยืนยาว ” ข้อ ๖. สำนักงานของชมรม ตั้งอยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ปัจจุบัน - ได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ถนนเทียมร่วมมิตร แขวง / เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
หมวดที่ ๒ วัตถุประสงค์ของชมรม
ข้อ ๗. ชมรมมีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้ ๗.๑ พบปะสังสรรค์ เพื่อส่งเสริมสัมพันธภาพระหว่างมวลสมาชิก ๗.๒ จัดกิจกรรม เพื่อความรู้และความบันเทิงตามความเหมาะสม ๗.๓ บำเพ็ญประโยชน์ ต่องานวัฒนธรรม ต่อสังคม และช่วยเหลือเพื่อนสมาชิกตามโอกาสอันควร
หมวดที่ ๓ สมาชิกภาพ
ข้อ ๘. สมาชิกของชมรมมี ๓ ประเภท คือ ๘.๑ สมาชิกสามัญตลอดชีพ ได้แก่ผู้ที่เคยปฎิบัติงานในสำนักงานคณะกรรมการ วัฒนธรรมแห่งชาติ หรือผู้ที่กำลังปฎิบัติงานอยู่ในสำนักงานคณะกรรมการ วัฒนธรรมแห่งชาติ ( กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ) ๘.๒ สมาชิกสามัญรายปี ได้แก่ผู้ที่เคยปฎิบัติงานในสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรม แห่งชาติ หรือผู้ที่กำลังปฎิบัติงานอยู่ในสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรม แห่งชาติ ( กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ) ซึ่งประสงค์สมัครเป็นสมาชิกรายปี ๘.๓ สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ผู้ทรงเกียรติ ผู้ทรงคุณวุฒิ เช่น อดีตเลขาธิการ กวช. หรือ อดีตรองเลขาธิการ กวช. หรือบุคคลอื่นที่คณะกรรมการบริหารชมรมเห็นสมควร เชิญเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์
หมวดที่ ๔ การเข้าเป็นสมาชิกและการขาดจากสมาชิกภาพ
ข้อ ๙. ผู้ที่ประสงค์จะเข้าเป็นสมาชิก ให้ยื่นใบสมัครตามรูปแบบที่กำหนดต่อเลขานุการของชมรม ให้เลขานุการของชมรม ข้อ ๑๐. สมาชิกภาพจะหมดไปเมื่อ ตาย หรือยื่นหนังสือลาออกต่อประธานชมรม
หมวดที่ ๕ สิทธิและหน้าที่ของสมาชิก
ข้อ ๑๑. มีสิทธิเข้าร่วมประชุมพบปะสังสรรค์ ร่วมกิจกรรมที่ชมรมจัดขึ้น เสนอความคิดเห็น หรือให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินงานของชมรม ต่อคณะกรรมการบริหาร ข้อ ๑๒. มีสิทธิในการออกเสียงเลีอกตั้งประธานชมรม หรือออกเสียงในที่ประชุมใหญ่ ข้อ ๑๓. มีหน้าที่ต้องปฎิบัติตามข้อบังคับของชมรม รักษาเกียรติและชื่อเสียงของชมรม ให้ความร่วมมือและสนับสนุนกิจกรรมของชมรม
หมวดที่ ๖ การเงินและการบัญชี
ข้อ ๑๔. ชมรมอาจมีรายได้จาก ๑๔.๑ ค่าบำรุงชมรม ๑๔.๒ เงินบริจาค ๑๔.๓ รายได้อื่นๆ จากการจัดกิจกรรมของชมรม ข้อ ๑๕. ค่าบำรุงชมรม ๑๕.๑ สำหรับสมาชิกสามัญตลอดชีพ ๓๐๐ บาท ๑๕.๒ สำหรับสมาชิกสามัญรายปี ๕๐ บาท ๑๕.๓ สำหรับสมาชิกกิตติมศักดิ์ไม่ต้องเสียค่าบำรุง
หมวดที่ ๗ คณะกรรมการบริหารชมรม
ข้อ ๑๖. ให้มีคณะกรรมการบริหารชมรมขึ้นคณะหนึ่ง มีจำนวนไม่น้อยกว่า ๑๕ คน และไม่เกิน ๑๙ คน ประกอบด้วย ๑๖.๑ ประธานชมรม ๑ คน ๑๖.๒ รองประธานชมรมคนที่ ๑ ๑ คน ๑๖.๓ รองประธานชมรมคนที่ ๒ ๑ คน ๑๖.๔ แผนงาน/ โครงการ ๑ คน ๑๖.๕ เหรัญญิก ๑ คน ๑๖.๖ ผู้ช่วยเหรัญญิก ๑ คน ๑๖.๗ ประชาสัมพันธ์ ๑ คน ๑๖.๘ ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์ ๑ คน ๑๖.๙ ปฎิคม ๑ คน ๑๖.๑๐ ผู้ช่วยปฏิคม ๑ คน ๑๖.๑๑ สวัสดิการ ๑ คน ๑๖.๑๒ ผู้ช่วยสวัสดิการ ๑ คน ๑๖.๑๓ ผู้ช่วยสวัสดิการ ๑ คน ๑๖.๑๔ นายทะเบียน ๑ คน ๑๖.๑๕ กรรมการกลาง ๑ คน ๑๖.๑๖ กรรมการกลาง ๑ คน ๑๖.๑๗ สมาชิกสัมพันธ์ ๑ คน ๑๖.๑๘ เลขานุการ ๑ คน ๑๖.๑๙ ผู้ช่วยเลขานุการชมรม ๑ คน ข้อ ๑๗. ให้ที่ประชุมใหญ่เสนอบุคคลที่เหมาะสมเป็นประธานชมรม และให้อยู่ในวาระคราวละ๒ ปี ให้ประธานชมรม ข้อ ๑๘. หน้าที่ของคณะกรรมการบริหารชมรม ๑๘.๑ ประธานชมรม ทำหน้าที่ในการบริหารกิจการของชมรม เป็นผู้แทนของชมรมในการติดต่อ ๑๘.๒ รองประธานชมรม ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยประธานในการบริหารงาน รับผิดชอบในการวางแผนจัดกิจกรรม ๑๘.๓ เลขานุการ ทำหน้าที่เกี่ยวกับงานธุรการของชมรม ประสานงานกับนายทะเบียนประสานงานระหว่าง ๑๘.๔ เหรัญญิก ทำหน้าที่ควบคุมดูแลเก็บรักษาเงิน เบิกจ่ายเงินโดยผ่านระบบธนาคาร ทำบัญชีรับ - จ่ายเงิน ๑๘.๕ ปฎิคม ทำหน้าที่ให้การต้อนรับมวลสมาชิกที่มาประชุม ประสานงานเรื่องสถานที่ประชุม การจัดเลี้ยง ๑๘.๖ ประชาสัมพันธ์ ทำหน้าที่เผยแพร่ข่าวสาร/กิจกรรมของชมรมประสานงานให้ข่าวสารความเคลื่อนไหว ๑๘.๗ นายทะเบียน ทำหน้าที่จัดทำทะเบียน / ทำเนียบสมาชิกชมรมทุกประเภท ให้ครบถ้วน เป็นปัจจุบัน ๑๘.๘ สวัสดิการ ทำหน้าที่ดูแลสวัสดิการสมาชิก ตามระเบียบ ๑๘.๙ แผนงานและโครงการ ทำหน้าที่ยกร่างแผนงาน โครงการ ของชมรม ๑๘.๑๐ สมาชิกสัมพันธ์ ทำหน้าที่เสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิก ๑๘.๑๑ กรรมการกลาง ทำหน้าที่เสนอความคิดเห็น ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินงาน ให้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารชมรมอย่างน้อยปีละ ๓ ครั้ง ข้อ ๑๙. อธิบดีและรองอธิบดี กรมส่งเสริมวัฒนธรรม เป็นที่ปรึกษาของชมรมโดยตำแหน่ง
หมวดที่ ๘ การประชุมใหญ่และการพบปะสังสรรค์
ข้อ ๒๐. ให้มีการประชุมใหญ่สมาชิกสามัญปีละ ๑ ครั้ง ควรจัดในเดือนพฤษภาคม ของทุกปี ข้อ ๒๑. ให้มีการพบปะสังสรรค์ระหว่างมวลสมาชิกทุก ๔ เดือน หรือตามความต้องการของมวลสมาชิก
หมวดที่ ๙ การแก้ไขปรับปรุงข้อบังคับของชมรม
ข้อ ๒๒. ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขข้อบังคับของชมรม ให้เลขานุการรวบรวมข้อมูลนำเสนอใน
หมวดที่ ๑๐ การยกเลิกชมรม
ข้อ ๒๓. การยกเลิกชมรม ให้ประธานชมรมนำเสนอในที่ประชุมใหญ่ โดยใช้มติ ๓ ใน ๔ ของจำนวนสมาชิกที่เข้าประชุม ข้อ ๒๔. การจัดการเกี่ยวกับการเงินและทรัพย์สินของชมรม ให้เป็นไปตามมติของที่ประชุมใหญ่
หมวดที่ ๑๑ บทเฉพาะกาล
ข้อ ๒๕. การดำเนินการเกี่ยวกับคณะกรรมการบริหารชมรมในระยะแรก ให้มีการเลือกตั้งประธานชั่วคราว ประกาศ ณ วันที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ( นายอำนวย จั่นเงิน ) ประธานชมรมชาว สวช.
|